วิธีการทำ “ขนมไข่เหี้ย ไข่หงส์” (สูตรชาววัง)

ส่วนผสมแป้ง (สูตรนี้ทำได้ประมาณ 30 ชิ้น)
1. แป้งข้าวหนียว 3 ถ้วย
2. แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
3. มะพร้าวขูดขาว 2 ถ้วย
4. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
6. น้ำอุ่น 1/2 ถ้วย
7. น้ำมันสำหรับทอด
ส่วนผสมไส้
1. ถั่วทอง (ถั่วเขียวเลาะเปลือกออก) 3/4 ถ้วย
2. หอมแดงสับหยาบ 1/4 ถ้วย
3. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
4. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
6. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (ตามใจชอบ)
น้ำตาลสำหรับเคลือบ
1. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
2. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
วิธีการทำขนมไข่หงส์
1. ล้างถั่วให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน (หรือแช่น้ำอุ่นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง) ล้างถั่วให้สะอาดอีกครั้ง
2. นำไปนึ่งบนลังถึงที่ปูผ้าขาวบางรองไว้ บนน้ำเดือดไฟกลางจนสุก พักให้เย็นแล้วโขลกถั่วนึ่งให้ละเอียดพักไว้
3. ผัดหอมแดงกับน้ำมันให้มีกลิ่นหอม ใส่ถั่วที่โขลกไว้ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย ผัดต่อจนส่วนผสมเริ่มร่อนจากกระทะ
ปิดไฟพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมน้ำหนักก้อนละ 10 กรัมเตรียมไว้
4. ใส่แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า และมะพร้าวขูดขาวลงในอ่างผสม นวดให้เข้ากัน จนมะพร้าวเริ่มมีน้ำมันออกมาเล็กน้อย ใส่น้ำตาลปี๊บ
เกลือผสมพอเข้ากันค่อย ๆ ใส่น้ำทีละน้อย
5. นวดต่อจนปั้นเป็นก้อนได้ พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม น้ำหนักก้อนละ 15 กรัม นำไปห่อไส้ให้มิด

6. จากนั้นนำไปทอดในกระทะน้ำมันด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที หรือจนแป้งเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ตั้งกระทะใส่น้ำตาลและ
น้ำด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน (เปลวไฟสูงประมาณ 1 ซม.) เคี่ยวจนเหนียวและเดือดเป็นฟองเล็ก ๆ เต็มกระทะ ใส่ขนมที่ทอดลงคลุกให้
เคลือบทั่วก้อน ปิดไฟแล้วคลุกต่อจนน้ำตาลตกผลึกเคลือบเป็นสีขาวทั้งหมดและแห้งสนิท

7. เสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

เกร็ดความรู้
ก่อนจะนิยมเรียกกันในชื่อ “ขนมไข่หงส์” ในปัจจุบัน คนโบราณเรียกว่า “ขนมไข่เหี้ย”
สมัยก่อนมีตำนานเล่าว่า เจ้าจอมแว่นหรือที่เรียกกันว่า คุณเสือ เป็นต้นคิดทำขนมไข่เหี้ยขึ้นเป็นครั้งแรก คือครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(ร.1) มีพระประสงค์จะเสวยไข่เหี้ย ซึ่งในสมัยนั้นกินกับมังคุด แต่ว่าไข่เหี้ยในระยะนั้นหายาก เจ้าจอมแว่นจึงได้
ประดิษฐ์ขนมไข่เหี้ยขึ้นถวายแทน
ขนมไข่เหี้ยฟังดูไม่เพราะ คนที่รังเกียจชื่อเขาก็เอามาเรียกกันใหม่ว่า “ไข่สวรรค์” บ้าง “ไข่หงส์” บ้าง แล้วแต่จะนึกชื่ออะไรที่ดีๆกว่านั้นได้ แต่
ส่วนมากก็ยังเรียกไข่เหี้ยอยู่ เพราะเป็นชื่อที่เรียกขานกันมาแต่โบราณนานแล้ว
เมื่อพูดถึงขนมไข่เหี้ย มีนักภาษาคนหนึ่งเคยออกความเห็นว่าน่าจะเรียกว่า “ขนมฟองแลน” ความจริงฟองแลนก็หมายถึงไข่เหี้ยนั่นเอง ภาษา
ถิ่นใต้เรียกเหี้ยและตะกวดว่าแลน ส่วนทางอีสานเรียกเฉพาะตะกวดว่าแลน เรียกเหี้ยว่าเหี่ย แต่ถึงกระนั้นก็แทนกันไม่ได้อยู่ดี เพราะขนมฟอง
แลนตัวจริงเขามีอยู่แล้ว ไส้ทำด้วยถั่วเขียวอย่างเดียวกับไส้ขนมไข่นกกระสา หุ้มด้วยแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งข้าวเหนียวมีฟักทองนวดผสมอีก
อย่างหนึ่ง ปั้นเป็นรูปไข่ ทอดสุกแล้วจึงฉาบด้วยน้ำตาลมะพร้าวเคี่ยวกับหัวกะทิ บางสูตรก็มีงาขาวโรยด้วย ดูก็คล้ายๆกับขนมไข่เหี้ยเหมือน
กัน แต่ส่วนผสมแป้งและใส้ต่างกัน จึงถือว่าเป็นคนละสูตรกันค่ะ
สำหรับเพื่อนๆที่จะนำไปทำขายเพื่อเพิ่มเป็นรายได้เสริม ก็สามารถปรับเพิ่มส่วนผสมตามสัดส่วนได้ตามต้องการนะคะ ขั้นตอนอาจจะเหมือน
ยาก แต่ลองทำทานเองสัก 2 รอบจะเริ่มคล่องขึ้น จากนั้นค่อยๆปรับสูตรให้ได้รสชาติตามที่ต้องการนะคะ รับรองสามารถทำขายได้ ลูกค้า
ติดใจแน่นอนจ้า ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ อย่าลืมกดแชร์เพื่อเป็นวิทยาทานกันด้วยนะคะ
ขอบคุณภาพและข้อมูลและสูตรจาก.http://nernnam.bloggang.com